เขาพระวิหาร เป็นโบราณสถานที่สำคัญของประเทศกัมพูชาเป็นเทวสถานในศาสนาพราหมณ์ ฮินดู สร้างในสมัยที่เขมรรุ่งเรืองอยู่ ในปี พ.ศ.2505 เกิดกรณีพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา เนื่องจากประเทศกัมพูชาได้ยื่นฟ้องต่อศาลโลกให้ไทยคืนเขาพระวิหารให้กัมพูชา และในขณะเดียวกันนั้นประเทศกัมพูชาก็สั่งตัดสัมพันธ์กับประเทศไทยด้วย เมื่อเกิดกรณีพิพาทดังกล่าวแล้วประเทศไทยก็มิได้ทำการใดเนื่องจากเห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่สันติไม่ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่หลังจากกัมพูชายื่นฟ้องร้องไม่นานกัมพูชาก็กลับคำและขอคืนสัมพันธไมตรีกับไทย...
กรณีเขาพระวิหารนั้นถูกศาลโลกตัดสินว่า ให้ตัวปราสาทตกเป็นของกัมพูชา ทั้งที่การตัดสินของศาลโลกเป็นการขัดแย้งกันเอง เพราะศาลโลกได้ยอมรับว่าแผนที่ของประเทศกัมพูชาเป็นแผนที่ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากทั้งสองฝ่าย เนื่องจากเส้นสันปันน้ำที่ฝัร่งเศสเขียนขึ้นนั้นเป็นการเขียนผิดหลักความจริง และไม่ได้ยึดถือตามลักษระของธรรมชาติที่แท้จริง จึงถือได้ว่าแผนที่นั้นเป็นโมฆะตามกฎหมาย แต่ศาลโลกยกเรื่องกฎหมายปิดปากมาอ้างว่าการที่ไทยนิ่งเฉยถือเป็นการยอมรับในอำนาจอธิปไตยที่มีต่อเขาพระวิหารของกัมพูชา ซึ่งตามหลักแล้วกฎหมายปิดปากนั้นใช้ในกรณีที่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดในการตัดสินเท่านั้น หลังจากคำตัดสินของศาลโลกแล้วนั้นประเทศไทยได้ปฏิบัติตามแม้จะไม่ได้ยอมรับก็ตามเพราะไทยถือว่าต้องปฏิบัตตินเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การสหประชาชาติ และประเทศไทยก็ได้คืนเฉพาะตัวปราสาทเขาพระวิหารให้กับกัมพูชานั่นเอง ทางไทยไม่รับรู้ด้วยว่ากัมพูชาจะขึ้นมาปราสาททางใด ซึ่งตามหลักแล้วบันได้อยู่ทางฝั่งไทย แต่กัมพูชาจำเป็นต้องขึ้นทางช่องเขาบันไดหักซึ่งเป็นทางที่ลำบากมาก หลังจากคำศาลโลกตัดสินแล้ว ประเทศไทยและชาวไทยไม่ยอมรับคำตัดสินนี้ มีการเดินประท้วงและชุมนุมกันเพื่อคัดค้านแต่นายกรัฐมันตรีในขณะนั้นก็ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ และกล่าวว่าสันวันหนึ่งเราจะเอาเขาพระวิหารของเราคืนมาให้ได้...
ปัจจุบันประเทศไทยพบกับปัญหาชายแดนกับกัมพูชาอีก เพราะกัมพูชานั้นมีการล่วงเกินอำนาจอธิปไตยของไทยโดยการให้ชาวกัมพูชามาปลูกบ้านสร้างวัดในเขตไทย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงต่อความสัมพันธ์อย่างยิ่งแต่ไทยกลับทำเป็นนิ่งเงียบจนเกิดข้อกล่าวหาต่างๆมากมายตามมา อีกทั้งไทยยังมีการยอมรับที่ประเทศกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารซึ่งใช้แผนที่ที่ฝรั่งเศสทำขึ้นหรือแผนที่ฉบับที่กัมพูชายื่นต่อศาลโลกแล้วเป็นโมฆะนั่นเอง แต่ประเทศไทยก็ยังยินยอมที่จะให้กัมพูชายื่นต่อองค์การยูเนสโก ซึ่งถือว่าเป็นการยอมรับอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาที่มีเหนือเขาพระวิหาร และทำให้ไทยอาจจะหมดโอกาสที่จะอุธรณ์คดีนี้ต่อศาลโลกอีกครั้ง ที่ร้ายแรงกว่านั้นคืออาจทำให้ไทยเสียดินแดนไปอีกก็เป็นได้ แม้ดินแดนที่อาจจะเสียไปไม่มากเท่าใดแต่ถือเป็นสิ่งแสดงได้ว่าประเทศไทยไม่มีความสามารถพอที่จะรักษาดินแดนไทยที่บรรพบุรุษรักษามาด้วยเลือดและเนื้อและความลำบากยากเข็น...
หากคนไทยเรายังไม่มีความสามัคคี รวมถึงความรักในแผ่นดินเกิดแล้วนั้นก็คงทำให้ประเทศไทยต้องเสียดินแดนไปอีกครั้ง และเมื่อเราเห็นว่าสิ่งใดที่ประเทศจะถูกกลืนกินด้วยคนไทยด้วยกันเองแล้วนั้น ขอให้คนไทยช่วยกันรักษาดินแดนนี้และประเทศนี้ไว้ตลอดไปเพื่อลูกหลาน และคนไทยด้วยกันเอง...
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น